CALL CENTER 038-388-999
นานาสาระ   
วิธีเลือก และ ดูแลใบปัดน้ำฝน
โดย โตโยต้า เจริญยนต์ ชลบุรี : 14 มิถุนายน 2560

 

          กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)​ แนะผู้ขับขี่เลือกใช้ที่ปัดน้ำฝนที่ทำจากโลหะ 
มีขนาดเหมาะสมกับมาตรฐานที่รถกำหนด การเลือกและดูแลใบปาดน้ำฝน ทำอย่างไรบ้างตามมาดูกันเลย

          นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ใบปัดน้ำฝนเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานในช่วงฤดูฝน ทำให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางอย่างชัดเจน จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ​ 
เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะ การเลือกและดูแลใบปาดน้ำฝน ให้พร้อม
ใช้งานในช่วงฤดูฝน ดังนี้

 

การเลือกใช้ใบปัดน้ำฝน   

 

 

          ใช้ใบปัดน้ำฝนที่ผลิตจากวัสดุและเนื้อยางที่มีคุณภาพดี เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างคงทน โครงของใบปัดน้ำฝนทำจากโลหะ เพื่อป้องกันการกระพือจากแรงลมในขณะขับรถด้วยความเร็วสูง และช่วยเพิ่มน้ำหนักในการรีดน้ำจากกระจก มีขนาดเหมาะสมกับมาตรฐานที่รถกำหนด  


          หากใบปัดน้ำฝนมีขนาดเล็กเกินไป ทำให้รัศมีในการ
ปัดน้ำฝนน้อยลง ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง หากใบปัดน้ำฝนมีขนาดใหญ่มากไป ใบปัดจะเลยขอบกระจก       ทำให้มีอายุการใช้งานสั้นลง 

          ยางใบปัดน้ำฝนแนบสนิทกับกระบังลมหน้า-หลัง เลือกที่มีความยืดหยุ่นและมีขนาดพอดีกับก้านใบปัดน้ำฝน เนื้อยาง
มีคุณสมบัติพิเศษ ไม่เสื่อมสภาพเร็วเกินไป และคงทนต่อสภาพอากาศร้อน 

 

วิธีสังเกตลักษณะของใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพ

 

 

              - เนื้อยางแข็งกรอบและมีรอยฉีกขาด  

              - กวาดน้ำบนกระจกไม่สะอาด รีดน้ำจากกระจกไม่หมด 

              - กวาดแล้วมีรอยขุ่นมัวหรือละอองน้ำเป็นม่านบนกระจก 

              - ยางปัดน้ำฝนมีอายุใช้งานมานานมากกว่า 1 ปี 

              - มีเสียงดังและมีอาการกระตุกขณะใช้งาน ซึ่งเกิดจากการเสียดสีกันระหว่างใบปัดน้ำฝนกับกระจก

 

การดูแลใบปัดน้ำฝน 

 

              - จอดรถในที่ร่ม เพื่อป้องกันแสงแดด ทำให้ยางใบปัดน้ำฝนแข็งกรอบและขาดความยืดหยุ่น เพราะยางต้องแนบกับกระจกที่รับความร้อน 

 

              - หมั่นตรวจสอบสภาพและทำความสะอาดยางใบปัดน้ำฝน โดยยกก้านใบปัดน้ำฝนขึ้นและ
ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดตามแนวยาวของใบปัดน้ำฝน 

              - ไม่ใช้ผงซักฟอกทำความสะอาดใบปัดน้ำฝน เพราะทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วและสีรถได้รับความเสียหาย 

              - ใช้น้ำยาเช็ดกระจกและเคลือบกระจกอยู่เสมอ จะทำให้กระจกสะอาดและใบปัดน้ำฝนทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

กรณีใบปัดน้ำฝนชำรุด 

 

 

         หากยางปัดน้ำฝน ฉีกขาด แข็งกรอบ ปัดน้ำไม่สะอาด มีเสียงดังหรือสะดุดขณะใช้งาน มีรอยขีดข่วนบนกระจก ให้เปลี่ยนชุดใบปัดน้ำฝนใหม่ เติมน้ำผสมน้ำยาเช็ดกระจกหรือแชมพูในกระปุกฉีดน้ำ จะช่วยขจัดคราบสกปรกบนกระจกได้สะอาดขึ้น 

 

กรณีหัวฉีดน้ำอุดตัน 

 

 

          ใช้เข็มหมุดเจาะบริเวณรู พร้อมปรับทิศทางของช่องฉีดน้ำให้อยู่แนวกึ่งกลางของกระจกรถ  

          ทั้งนี้ การใช้ใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพ นอกจากจะไม่สามารถกวาดน้ำบนกระจกได้สะอาดแล้ว ยังส่งผลให้กระจกหน้ารถเป็นรอย โดยเฉพาะการขับรถในช่วงที่ฝนตกหนัก ทำให้มีทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก: car.kapook.com